รีวิว อาหารญี่ปุ่น แถวพระราม3 KABOCHA SUSHI คุ้มจริง

สวัสดีจ้า ทุกท่าน รีวิวตัวแรกนี้ เบญจาพาชิม (#BenjaPaChim) จะมารีวิวร้านอาหารญี่ปุ่น Kabocha Sushi (คาโบชะ ซูชิ) สาขา Homepro พระราม 3 ร้านโปรด ร้านประจำแถวบ้าน ให้ทุกท่านได้ชมกันค่ะ มาเริ่มกันเลย!!

ต้องเล่าก่อนว่า ร้านนี้ถือเป็นร้านโปรดที่ทานบ่อยมาก ทานยาวนานมาจนเกือบครบ 1 ปีแล้ว ทานจนสะสมใบเสร็จครบ 9,000 บาท และในวันนี้จะนำมาแลกบัตรสมาชิกที่ร้าน เย่!!! ในที่สุด เราก็ได้มันมาครอบครอง

ภาพนี้จะเป็นภาพบรรยากาศหน้าร้าน ร้านจะตั้งอยู่ชั้น 1 ของห้าง เดินเข้ามาหาไม่ยาก ร้านอยู่ตรงข้าม 7-11 ในห้าง

    

และนี่ก็จะเป็นด้านข้างของตัวร้าน ซึ่งจะมีป้ายโฆษณาเมนูและราคาอาหารแปะอยู่ให้เห็นกันก่อนเข้าร้านเลยทีเดียว ตระการตามาก ยั่วน้ำลายสุดๆ แต่ขอคำนวณแพรพ มื้อนี้ต้องเตรียมตังค์เท่าไรน้า

หลังจากเข้ามาในร้าน ด้วยความหิวตาลาย เลยลืมถ่ายบรรยากาศ และ ที่นั่งในร้านมาให้ชมกัน ซึ่งก็จะมีทั้งโซนโต๊ะนั่งปกติ และ โซนเคาน์เตอร์บาร์ ยาวๆปาย

มาดูอาหารกันเลย จานแรก จะเป็นเหมือน Appetizer ซึ่งฟรีจ้า เค้าจะยกมาเสิร์ฟให้หลังจากที่เราสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว ซึ่งที่เราจะได้ฟรี คือ ซุป กับ ปลากรอบและถั่วแระญี่ปุ่น ส่วนชาเขียวร้อนกับชาเขียวเย็นในภาพ ราคาแก้วละ 30 บาทเท่ากัน เป็นแบบรีฟิว

ถัดมาจะเป็น แซลมอนซาซิมิ แอร๊ย ชิ้นอ้วนยาวเชียว จานนี้ก็ฟรี อิอิ เพราะใช้สิทธิ์ที่อยู่ในบัตรสมาชิกใบใหม่แลกมา ดีงามมาก แซลมอนอ้วนๆ คุณภาพมาก นุ่มละลาย เต็มปากเต็มคำ บอกเลยว่าฟินนน

ถัดมาจะเป็นเมนู 3 Don ราคาอยู่ที่ชามละ 350 บาท ในนี้จะประกอบไปด้วย ข้าวหน้าปลา 3 ชนิด ซึ่งก็คือ แซลมอน ทูน่า และ ฮามาจิ

ปลาทั้ง 3 ชนิดนั้น มีความอร่อยที่แตกต่างกัน ตัวแซลมอนนั้น จะออกนุ่มละมุน ลื่นๆ มีกลิ่นไอของแซลมอนตอนกิน ส่วนทูน่า เนื้อจะแน่นกว่าแซลมอนหน่อย ไม่นุ่มเท่าแซลมอน และสุดท้าย ฮามาจิ จะนุ่มกว่าทูน่า เวลาเคี้ยวก็จะนิ่มๆ ละลาย เคี้ยวปุ๊ป เกือบหาย 555 ไม่ใช่แล้ว

ต่อๆ ในส่วนของข้าวญี่ปุ่นนั้น หมักมาได้รสชาติที่เค็มเปรี้ยวกำลังดี ข้าวไม่แข็งไม่นิ่มจนเกินไป บวกกับไข่แซลมอนที่เค็มพอดีตัดกับเนื้อปลา แนะนำว่าอย่าราดโชยุเยอะ เพราะมีไข่แซลมอนช่วยเพิ่มรสเค็มให้อยู่แล้วจ้า

จานถัดมาเป็น Salmon Foiegras Sushi ซูชิแซลมอนเบิร์นที่มีตับห่านอยู่ด้านบน อันนี้สั่งเพราะลดแรง ลดจากคำละ 100 เหลือคำละ 50 บาทเท่านั้น ถือว่าคุ้ม มาพูดถึงรสชาติกัน ทันทีที่คีบเข้าปาก จะพบว่ามีความนุ่มหวานมัน จุกปากมาก ตามด้วยความกรุบเล็กน้อยของไข่กุ้ง และที่สำคัญคือ มีรสชาติของตับห่านแทรกมาระหว่างเคี้ยว คือฟินมาก ซอสหวานกำลังดี เข้ากับแซลมอนเบิร์น ข้าวก็รสชาติอร่อย และ ไม่แข็งไป

ถัดไปจะเป็น จานฟรี อีกแล้ว โย่วว!! ใช้สิทธิ์ Complementary ในบัตรสมาชิกใหม่แลกมา ซึ่งอาหารก็จะสุ่มไป แล้วแต่เดือน วันนี้เบญได้ ท้องแซลมอนย่างซอสหวานมา เห็นหน้าตานั้นอาจจะธรรมดา แต่บอกเลยว่า ของฟรีจานนี้ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพราะ เนื้อส่วนท้องจะมัน และ นุ่มลื่นมาก ตัดกับซอสหวานได้เป็นอย่างดี และหนังปลานั้น ก็ย่างมาเกรียมนิดๆ ซึ่งให้ความกรอบเล็กๆ ถือว่าดีและคุ้มมาก

 จานถัดไป คราวนี้มาคู่เลย คือ Engawa Sushi และ Unagi Sushi ซึ่งก็คือ ซูชิปลาเอนกาวะ และ ซูชิปลาไหลนั่นเอง เรามาชิม เอนกาวะกันก่อน เพราะปลาไหลจะหวานกว่ามาก ถ้ากินหวานก่อน เดี๋ยวจะทำให้รสชาติของเอนกาวะเพี้ยนไป 

นอกจากปลาแซลมอนที่เบญชอบมากๆแล้ว ปลาเอนกาวะ ก็เป็นปลาอีกชนิดที่ชอบมากๆเหมือนกัน เพราะเนื้อนุ่มมาก ยิ่งย่างไฟมาหน่อยๆนะ เนื้อจะ มันๆ จนปากมันแผล่บเลย ชอบๆ 555 แต่ติดอยู่อย่างเดียว วันนี้เจอช่วงเอ็นปลานิดหน่อย ที่ทำให้เคี้ยวไม่ขาด แต่โดยรวมถือว่าใช้ได้ เมื่อเทียบกับราคาลด 15% จากคำละ 70 เหลือ คำละ 59 บาท เท่านั้น จัดไป 2 คำเลยจ้า

คราวนี้มาชิมปลาไหลกันต่อ ใครที่ยังไม่เคยลองปลาไหล อยากให้ลองสักครั้ง แล้วจะติดใจไปตลอด เพราะเนื้อมันค่อนข้างนุ่ม และปรุงมาด้วยซอสหวานที่เข้ากันอย่างลงตัว ฟินมาก คำนี้ลด 15% เช่นกัน จากคำละ 100 เหลือ 85 บาท เลยจัดมา 2 คำ

และจานสุดท้าย ขอปิดจบด้วยของหวาน ที่ชื่อว่า Daifuku (ไดฟุกุ) ไส้สตรอเบอร์รี่ มีให้เลือก 2 รส คือ ชาเขียวกับช็อคโกแลต เบญเลือก ชาเขียวมา จานนี้ ฟรี อีกแล้ว เพราะใช้สิทธิ์เดือนเกิดของบัตรสมาชิกใบเก่าแลกมา ราคาปกติอยู่ที่จานละ 89 บาท โอ้ยดีงาม ยื่นไปเลยจ้าบัตรประชาชน คู่กับ บัตรสมาชิกโลด

มาพูดถึงรสชาติ ถือว่า ใช้ได้เลย โมจินุ่มหยุ่น และ ยืดมาก มีรสชาติของชาเขียวตัดเปรี้ยวด้วยสตรอเบอร์รี่เย็นๆ อร่อยดี เข้ากั๊นเข้ากัน

และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องมาดูค่าเสียหายวันนี้กัน สิริรวม 879 บาท (รวม VAT 7% และ Service Charge 3% แล้ว) อิ่มจ้า บอกเลย อย่าลืมไปลองกันนะคะ มีหลายสาขา เดี๋ยวจะแปะรายละเอียดไว้ให้ข้างล่างจ้า

มาพูดถึงบัตรสมาชิกกัน เดิมทีเบญมีบัตรสมาชิกใบเก่าอยู่ใบนึง ได้จากรุ่นน้องมาเมื่อปีที่แล้ว บัตรจะค่อนข้าง Manual นิดนึง ไม่มี Chip หรือ Barcode ใดๆ เป็นบัตรแข็ง ทุกครั้งที่มาใช้สิทธิ์ พนักงานก็จะเซ็นต์ลงในบัตร สิทธิประโยชน์ก็คือ

1. ฟรี Monthly Complementary (จานเสริม) 12 ครั้ง
2. ฟรี Salmon Sashimi (แซลมอน ซาซิมิ) 3 ครั้ง
3. ฟรี Salmon Kabutoni (หัวปลาแซลม่อนต้มซีอิ๊ว) 1 ครั้ง
4. ฟรี Strawberry Daifuku (ไดกุฟุ สตรอเบอร์รี่) 1 ครั้ง ในเดือนเกิด (ยื่นบัตรประชาชนวันเกิดใครก็ได้ แม่หรือพ่อหรือแฟนที่มาทานด้วยกัน)

สำหรับบัตรสมาชิกใบใหม่ล่าสุด ที่นำใบเสร็จที่ทานจนครบ 9,000 บาทไปแลกมานั้น จะเก็บข้อมูลของเราไว้อยู่ ทั้งวันเกิด และ การใช้สิทธิ์ต่างๆว่า ใช้ไปกี่ครั้งแล้ว รวมทั้งสะสมแต้มในบัตรเพื่อ Upgrade เป็น VIP ได้ด้วย  สิทธิประโยชน์ก็คือ

1. ฟรี Salmon Sashimi (แซลมอน ซาซิมิ) 2 ครั้ง —> แอบลดลงจากเดิมแฮะ
2. ฟรี Complementary (จานเสริม) 1 ครั้ง —> ลดลงจากเดิมไปแยะ
3. ฟรี Strawberry Daifuku (ไดกุฟุ สตรอเบอร์รี่) 1 ครั้ง ในเดือนเกิด (ยื่นบัตรประชาชนเราเท่านั้น เพราะ ข้อมูลผูกในบัตรตอนสมัครแล้ว)

สำหรับการ Upgrade เป็นบัตร VIP นั้น ต้องสะสมแต้มให้ครบ 100 แต้ม ซึ่งจะได้สิทธิ์ลด 10% ทุกเมนู (นอกเมนูโปรโมชั่น ไม่รวมของหวานและเครื่องดื่ม) โดย 200 บาท = 1 แต้ม วันนี้สะสมไปได้ 4 แต้ม ซึ่งจะมี Message แจ้งเข้ามาในมือถือ โอ้ววว…ขาดอีกแค่ 96 แต้มเอง (200 x 96 = 19,200 บาท) อะเฮือกกก

สำหรับวันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ อย่าลืมไปลองทานกันนะคะ ถ้าเทียบราคากับคุณภาพแล้ว เบญขอคอนเฟิร์มว่าคุ้มค่ามากค่ะ เอาไปเลย 5/5 ดาว แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้ากับ #BenjaPaChim สวัสดีจ้า

1. สาขา ลาดพร้าว 19 โทร 095-691-6586
2. สาขา The Nine Center พระราม 9 โทร 099-932-5258
3. สาขา The street รัชดาภิเษก โทร 095-189-2367
4. สาขา The Bright พระราม 2 โทร 095-189-2368
5. สาขา Home Pro พระราม 3 โทร 099-619-1002
6. สาขา Central Bangna โทร 099-619-1003
7. สาขา Home Pro พระราม 9 โทร 099-619-1005
8. สาขา Sena Fest โทร 099-619-1004

แผนที่ ปักหมุดร้าน