รีวิว หูกระจง คาเฟ่กลาสเฮ้าส์ในสวน แถวยานนาวา

สวัสดีจ้า วันนี้เบญจาพาชิม (#BenjaPaChim) พามาแถวยานนาวา มาพักผ่อนหย่อนใจกันที่คาเฟ่กลาสเฮ้าส์ สีเขียวๆอีกแห่งในเมืองกันจ้า

ร้านนี้เบญแวะมาสองรอบแล้ว เพราะติดใจในเค้กโฮมเมดของเค้า บวกกับอยากลองทานเครื่องดื่มที่หลากหลาย ซึ่งมาครั้งเดียวก็คงเก็บไม่หมดแน่นอน (สองครั้งก็ยังไม่หมด 555) คาดว่าคงมาอีกเรื่อยๆ เพราะใกล้บ้านเหลือเกิ๊น ไปชมรีวิวกันเล๊ยยย

ร้านนี้มีชื่อว่า Hookrajongcafe (หูกระจงคาเฟ่) พอมาถึงร้าน อ๋อเลย เพราะเห็นต้นหูกระจงแผ่กิ่งก้านสาขาให้ความร่มเย็นและร่มเงาแก่สวนด้านหน้าร้าน ร่มรื่นสุดๆ และนี่เอง…ที่เป็นที่มาของชื่อร้าน ซึ่งก็ทำให้นึกถึงประโยคนึงที่พี่โน๊ต อุดมได้กล่าวไว้ว่า “หูกระจงควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน” เพราะว่า กิ่งก้านสาขาของมันสามารถที่จะแผ่ ทะลุทะลวง หลังคาบ้าน สร้างความเสียหายได้นั่นเอง เค้าถึงได้แนะนำให้ปลูกห่างจากตัวบ้านกัน 4-5 เมตร อื้มม…เห็นจริงตามนั้น ตามภาพเลย 🤔

บรรยากาศหน้าร้าน เย็นสบาย ร่มรื่น นั่งกินลมได้แบบชิลๆเลย ยามเย็น

เดินเข้ามาในร้าน ด้านในตกแต่งด้วยสีโทนเรียบอย่างขาวครีมน้ำตาล ดูสบายตา และก็จะมีโต๊ะอยู่หลายแบบหลายมุม เลือกได้ตามความชอบเลย จะมาเดี่ยวมาคู่ มาเป็นกรุ๊ป มีทุกแบบ

และที่เรียกว่า คาเฟ่กลาสเฮ้าส์นั้น ก็เพราะว่า ตัวคาเฟ่ล้อมรอบด้วยกระจกใส ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเรือนกระจกยังไงยังงั้น ทะลุปรุโปร่ง โล่งสบายตา เหมือนนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ 🌴🌳🌿

ถ้าอยากส่วนตัวหน่อย ก็เดินขึ้นบันไดวน ไปนั่งด้านบน…สงบเงียบ และ private สุดๆ

มาทาง part อาหารกันบ้าง มานั่งคาเฟ่ เราก็อยากจะทานอะไรที่มันเบาๆ light light เลยจัด สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า มาอีกแล้ว 555 (เบาไหมนะ) จานนี้ 140 บาท อร่อยยยย ไม่เลี่ยน ทานสองคน กำลังพอดีอิ่ม มาสองรอบ ก็สั่งมันสองรอบเลย 😆

นี่คือหน้าตาของคนที่อร่อยจนตาเป็นประกาย 🤩

อีกจานก็เป็น สลัดทูน่า เสิร์ฟคู่มากับน้ำสลัดงาซีอิ๊วญี่ปุ่น เปรี้ยวๆ จานนี้ ราคา 115 บาท ใส่ทูน่ามาให้เยอะมากกก อัดมาอย่างแน่นอ่ะ ทานผักหมดก่อนซะด้วยซ้ำ

มาดู Part เครื่องดื่มที่ได้ลองมาทั้งหมดกัน

แก้วแรก เป็น Signature ของทางร้านเค้าเลย ชื่อว่า Coco Matcha (น้ำมะพร้าวสดชาเขียว) 🥥🍵 ดูเผินๆเหมือนจะไม่เข้ากันนะ แต่สายชาเขียวอย่างเรา ต้องลองซะหน่อย ปรากฏว่า…มันดีย์แฮะ พอชาเขียวข้นๆเข้มๆ เทผสมลงไปในน้ำมะพร้าวสด มันหอมอร่อยมากก กลิ่นและรสชาติของน้ำมะพร้าวไม่ทำให้รสชาเขียวเพี๊ยนเลย หากแต่จะทำให้ทานแล้ว สดชื่น ฟินกว่าเดิมซะอีก อยากให้มาลองกันนะ ราคา 125 บาท

ใจเย็นๆ…เจ้าหนู นั่นมันไม่ใช่หลอดดดด!!!!

พอเทชาเขียวผสมลงไปในน้ำมะพร้าวสด ก็เป็นอันเสร็จ…ดื่มได้

แก้วต่อไป เป็นแนวเปรี้ยวซ่า ชื่อว่า Apple Cherry Soda รสจะอมเปรี้ยวอมหวาน ซ่าๆ ชื่นใจ ราคา 85 บาท หน้าตาดี ตามภาพ (หมายถึงนางแบบนะ 555 😝)

ขนาดน้ำแข็ง ยังแอบมีดีเทลน่ารักๆ…ด้วยการแช่เลมอนลงไปด้วย อุ๊ย…ปากติดน้ำแข็ง 😆

ถัดมา ลองแบบปั่นๆกันบ้าง กับเจ้า Berry Blast รสก็จะข้นๆนัวๆเปรี้ยวๆ สดชื่น ดูดได้ยาวๆปายย เหมาะก็สายนั่งยาว นั่งนาน 555 เพราะถ้าปั่นละเนี่ย ปริมาตรมันจะเยอะกว่าพวกน้ำๆแบบสั่งเย็นใส่น้ำแข็ง ที่ดูดสองปรื๊ดก็หมดแก้วแล้ว 😆 มันก็จะคุ้มหน่อยแก้วนี้ ราคา 115 บาท

อีกแก้ว ขอวนกลับที่มาที่ สายโซดาอีกครั้ง ตัวนี้ชื่อ Baby Pink ชื่อน่ารักจุง รสชาติจะเป็นลิ้นจี่เลย ชื่อไทยๆของมันก็คือ น้ำลิ้นจี่โซดานั่นเอง อร่อย เปรี้ยวซ่าสดชื่นตามเคย แต่มันอร่อยกว่าทุกแก้วนะอันนี้ เพราะว่ามัน…ฟรี!!! 55555 สะสมแสตมป์ครบ 10 ดวง แลกเครื่องดื่มเย็น/ร้อน ได้ฟรี 1 แก้วนะจ๊ะ (ทานครบ 100 บาท = แสตมป์ 1 ดวง) ซึ่งราคาปกติของแก้วนี้คือ 85 บาท

นี่คือเหตุผลที่กลับมารอบสองสินะ…มาใช้แสตมป์ ฮ่าๆๆ

แก้วสุดท้ายแล้ว ก่อนที่เบาหวานจะขึ้น แก้วนี้สั่งเพราะอยากลองชาเขียวโฮจิฉะของเค้า เลยสั่ง โฮจิฉะเย็น หวานน้อย ราคา 75 บาท ปรากฏว่า ดูดคำแรกเข้าไป อะฮื้ออออ…หวานมากกกกก หวานสุดดดด หวานขึ้นตา หวานตัดขา โอ้ยยยยย 🤣 ไม่แน่ใจว่า ที่หวานขนาดนี้ เพราะพอดีช่วงนี้เริ่มหันมาดื่มกาแฟดำหรือเปล่า พอทานอะไรที่หวานปกติ หรือ หวานน้อย เลยทำให้มันกลายเป็นหวานมากไปเลย เพราะฉะนั้นได้โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมรีวิว เพราะคำว่าหวานของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน…ต้องมาลองเองจ้า

มาๆๆ เปลี่ยนโหมด มาดูมาชมมาชิม ของหวานกันดีกว่า (ข้างบนนั้น ยังหวานไม่พอชิมิ 555)

เริ่มด้วย ตัวที่ชอบอันดับ 1 เค้กบานอฟฟี่…ฟี่..ฟี่..ฟี่ (อ่านแบบ เอคโค่ ให้เค้าหน่อย) 😄 เพราะชอบมากกกก เป็นการส่วนตัว เป็นของโปรดมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว และที่นี่ก็ทำได้ไม่ผิดหวัง

เผื่อใครที่ยังไม่เคยลองนะคะ…Banoffee (บานอฟฟี่) มาจากคำว่า Banana (กล้วย) 🍌 และ Toffee  (ทอฟฟี่หรือคาราเมล) 🍬 รวมกันเป็น “บานอฟฟี่” เป็นขนมหวานสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ที่ผสมผสานรสชาติของกล้วย และ คาราเมลเข้าด้วยกัน และเบสด้วยแป้งพายหรือช็อคโกแลตกรุบกรอบ ท็อปด้านบนด้วยครีมสดและผงโกโก้ ให้รสสัมผัสที่หอม นุ่มละมุน และกรุบ ในคราวเดียว เรียกได้ว่ามีหลาย texture ที่โสตประสาทของลิ้นจะได้สัมผัส ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า มันจะเข้ากั๊น เข้ากัน แบบสุดๆ อร่อยมาก ต้องมาลองเลย เพราะที่นี่เค้าทำโฮมเมดเบเกอรี่ โดยเจ้าของร้านเป็นผู้คิดค้นสูตรและลงมือทำเองทั้งหมดด้วย แนะนำเลยจ้า สายบานอฟฟี่ทั้งหลาย 😋 เรียกได้ว่า คุ้มค่า สมราคา 95 บาทแน่นอน

จานที่ 2 ที่ชอบเหมือนกันรองลงมา ก็คือ Nuteli-o cheesecake หรือ เค้กนูเทลล่า นั่นเอง ราคา 130 บาท จานนี้โปะช็อคบอลถั่ว 1 ลูก มากะเค้ก 3 เลเยอร์ ชั้นบนสุดจะเป็นครีมนูเทลล่านุ่มๆ ชั้นกลางจะเป็นช็อคโกแลตนูเทลล่าเนื้อแน่นๆเข้มๆ ไม่หวานมาก ชั้นล่างสุดเบสมาด้วยแป้งพายกรุบๆ พอทาน 3 เลเยอร์พร้อมกันในคำเดียว ก็จะฟินไปเลยจ้า มีคนแย่งกินสักหนึ่งคนกำลังดี กินคนเดียว…อ้วนตายยยย 555

จานนี้ มาสองรอบก็สั่งสองรอบเหมือนกัน อร่อยแค่ไหน ถามใจเธอดู…นี่หน้าฟินหรือง่วงคะเนี่ย 😅

จานที่ 3 ชอบเหมือนกัน แต่น้อยกว่าสองจานบน มันคือ Blueberry Cheesecake เมนูเบสิคที่น่าจะเป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆคนเช่นกัน ราคา 115 บาท ซึ่งก็อร่อยจ้า อร่อยปกติ ไม่ผิดหวัง ชีสเค้กเปรี้ยวนำ ทานคู่กับเค้กหวานๆจานอื่น ก็จะตัดกันเพลินดี

และนอกจากที่นี่ จะใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ทานน้ำทานขนมแล้ว ใครที่อยากจะยกโน๊ตบุ๊คมานั่งทำงานจริงจัง เค้าก็มีโต๊ะเก้าอี้ พร้อมเต้าปลั๊ก Facility ที่ค่อนข้างสะดวกสบาย นั่งกันได้ยาวๆตั้งแต่เช้ายันมืดเลยทีเดียว เบญลองแล้วก็พบว่า เอ้อ…มันก็ Productive ดีแฮะ

เค้ามีงานวิจัยบอกว่า ในสภาพแวดล้อมที่มีความดังของเสียงระดับต่ำ แต่ไม่ถึงกับเงียบ คือราวๆ 50-70 เดซิเบล เป็นภาวะที่สมองสามารถทำงานได้ดี โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งดันไปตรงกับสภาพแวดล้อมในคาเฟ่ ที่มีเสียงของเครื่องชงกาแฟ เสียงดนตรี เสียงคนคุยกันเบาๆ (ที่เราไม่เข้าใจ context ของเค้า) มันก็เลยทำให้เรามีสมาธิ และ โฟกัสงาน เมื่อนั่งอยู่ในคาเฟ่ได้มากกว่าอยู่บ้านนั่นเอง

แต่แม้ว่าคุณจะไม่ได้ไปนั่งคาเฟ่ ก็สามารถหาฟัง Cafe ambient sounds จากยูทูปได้ด้วยนะ 😄 ตอบโจทย์ไหม ต้องลองดู 555

ป่ะ ก่อนจบการรีวิว ก็มาหามุมชิคๆ ถ่ายรูปเช็คอินกัน เนื่องจากมาสองรอบก็จะได้ภาพบรรยากาศทั้งตอนกลางวันและกลางคืนเลย เจ๋งป่ะล่ะ 😉

และคะแนนวันนี้ เบญให้ 5/5 ดาวค่ะ โดยรวมให้ผ่านหมด ถึงแม้โฮจิฉะ จะหวานติดตาตรึงใจ (เอ๊ะ หรือว่า หวานขึ้นตาตกใจ 😆) แต่เบญก็รู้สึกประทับใจในส่วนอื่นๆหมดเลย ทั้งสถานที่ บรรยากาศ อาหาร เครื่องดื่ม และ ของหวาน ทั้งยังมีแสตมป์ให้สะสมเพื่อแลกเครื่องดื่มฟรี แถมยังใช้สิทธิ์ AIS Serenade ลดได้ถึง 5-15% ตามระดับ Privilege ได้อีก คุ้มแล้วคุ้มอีก เพราะฉะนั้น ขอแนะนำให้เป็นคาเฟ่น่านั่งอีกที่ในย่านยานนาวาเลยจ้า

ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ และฝากติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ ว่าเบญจะพาไปทานอะไรอีก แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้ากับ #BenjaPaChim บะบายยยย 👐🏼

📞 Hookrajongcafe (หูกระจงคาเฟ่)
  • ร้านเปิดบริการ : 09.00 – 20.00 น. (ทุกวัน)
  • โทร : 065-145-6456
  • ที่จอดรถ : มี
  • Facebook Page: https://www.facebook.com/hookrajongcafe/
แผนที่ ปักหมุดร้าน

0 comments on “รีวิว หูกระจง คาเฟ่กลาสเฮ้าส์ในสวน แถวยานนาวาAdd yours →

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *